บ่อยครั้งที่เราเข้าใจผิดว่างานที่สำคัญคือ งานที่คนอื่นๆ ปรบมือให้ งานที่มีตัวตน แสดงความเก่งกาจของเราให้โลกได้เห็นและยอมรับ งานไหนที่ไม่ถูกยกย่อง ไม่มีคนอื่นคอยชื่นชม ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่โดดเด่น ไม่เป็นที่รู้จัก นั่นไม่ใช่งานที่สำคัญ !

หรืองานที่สำคัญคืองานที่ได้เงินเยอะๆ ได้ผลประโยชน์มากที่สุดแต่ทำงานให้น้อยที่สุด หรือแม้กระทั่งคิดว่างานที่สำคัญคือ งานที่เราทำเพื่อตัวเราเอง ไม่ได้รับใช้ความฝันของใคร
งานบางงานมีเปลือกนอกที่ดูดี เช่น งานที่ไม่หวังผลกำไร งานที่ดูเหมือนเสียสละ งานอาสา งานมูลนิธิ งานเพื่อสังคม แต่คนที่ทำงานหวังผลอย่างอื่น เช่น การยอมรับนับถือ ชื่อเสียง ผลประโยชน์แอบแฝง เพื่อตอบสนองความบกพร่องภายในจิตใจของตนเองที่ไม่มีวันเต็ม
นี่เป็นความคิดที่อันตรายต่อมุมมองในการทำงานและการใช้ชีวิต คือ การที่เราตัดสินงานใดๆ ก็แล้วแต่ ว่าไม่สำคัญ โดยวัดจากสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาและผลงานที่ปรากฎเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อทัศนคติและแรงจูงใจในการทำงานของเรา
งานหรือกิจกรรมในการทำงาน ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่ "แรงจูงใจ" ในการทำงานต่างหากที่สำคัญ !
เมื่อเราตระหนักว่า "แรงจูงใจเป็นสิ่งสำคัญ" งานทุกงานก็เป็นงานที่มีความสำคัญขึ้นมาได้ทั้งสิ้น ถ้าแรงจูงใจถูกต้อง งานเพื่อสังคม งานซ่อมท่อประปา งานเสริฟอาหาร งานสอนหนังสือ งานธุรการ งานเติมน้ำมัน งานชงกาแฟ งานกวาดพื้น งานทุกงานล้วนสำคัญขึ้นมาได้ ถ้างานที่เราทำนั้น เราทำเพื่อรับใช้ผู้อื่นและทำด้วยแรงจูงใจที่ดี

แรงจูงใจที่ดีคืออะไร ใครตัดสินว่าอันนี้ดีหรือไม่ดี ?
การที่เราจะตอบคำถามนี้ได้ เราก็แค่ถามตัวเราเอง เพราะแท้จริงสามัญสำนึกและจิตสำนึกของเราตอบคำถามนี้ได้เองอยู่แล้ว โดยไม่ต้องให้ใครมาตอบแทนเรา
แม่ค้าที่หลอกขายของไม่มีคุณภาพ กับแม่ค้าที่จริงใจขายของดีให้ลูกค้า คนไหนมีแรงจูงใจที่ดี ? แล้วเราเป็นแม่ค้าแบบไหน ?
ยามที่พร้อมจะแอบหลับทุกครั้งที่มีโอกาส กับยามที่พร้อมช่วยเหลือลูกค้าอย่างกระตือรือล้นโดยไม่ได้หวังเงินตอบแทนจากลูกค้า คนไหนมีแรงจูงใจที่ดี ? แล้วเราเป็นยามแบบไหน ?
ครูที่สอนเพราะอยากให้คนนับถือและฉวยโอกาสดึงลูกศิษย์มาสอนพิเศษหรือมาทำงานให้ กับครูที่สอนเพราะหวังดีต่ออนาคตลูกศิษย์และมึความซื่อสัตย์ต่อโรงเรียน คนไหนมีแรงจูงใจที่ดี ? แล้วเราเป็นครูแบบไหน ?
ศิลปินที่วาดรูปเพื่ออวดตนเองให้คนอื่นยอมรับ กับศิลปินที่วาดรูปเพราะอยากให้ผลงานที่มีคุณภาพดีที่สุดกับผู้ชม คนไหนมีแรงจูงใจที่ดี ? แล้วเราเป็นศิลปินแบบไหน ?
ดอกเตอร์ปริญญาเอกที่ใช้ความสามารถในการหลอกลวงคนอื่นให้มาลงทุนแล้วโกงเงินหนีไป กับดอกเตอร์ปริญญาเอกที่เปิดบริษัทเพื่อให้คนมาลงทุนสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน คนไหนมีแรงจูงใจที่ดี ? แล้วเราเป็นดอกเตอร์แบบไหน ?

หลายคนอยากเลือกแบบหลัง บางคนอาจมีทั้งสองแบบผสมๆ กันไป แต่บางคนอาจเลือกเป็นคนแบบแรกก็ได้ (เพราะเดี๋ยวนี้เหตุผลของคนเราก็คาดเดาได้ยาก) แต่คำถามที่ตามมาก็คือ เราอยากได้แม่ค้าแบบแรกเป็นคนในสังคมของเราหรือ เราอยากได้ครูจอมฉวยโอกาสเป็นครูของเราไหม หรืออยากได้เป็นดอกเตอร์จอมหลอกลวงเป็นคนรักคู่ครองของเราในอนาคต
แรงจูงใจ เป็นสิ่งที่อยู่ภายใน ไม่มีใครรู้จนกว่าพฤติกรรมจากแรงจูงใจนั้นปรากฎออกมาให้เห็น
แรงจูงใจในการทำงาน สร้างความหมายให้กับงานที่เราทำ แรงจูงใจที่ดีในการทำงานคือ แรงจูงใจที่ปรารถณาจะทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุดเต็มความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบต่องานที่ทำ ต่อนายจ้าง ต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อลูกค้า เพื่อรับใช้ผู้อื่นด้วยความจริงใจ
แรงจูงใจที่ดีในการทำงาน คือ ความรัก และงานที่มีความหมายคือ งานที่ทำด้วยความรัก
ไม่ใช่ด้วยการอยากพิสูจน์ตนเองให้เป็นที่ยอมรับ ไม่ใช่ด้วยความโลภอยากได้ ไม่ใช่ด้วยความหยิ่งยะโสว่าเหนือกว่าคนอื่น ไม่ใช่ด้วยความอิจฉาริษยาที่คนอื่นได้ดีกว่า ไม่ใช่ด้วยความก้าวร้าวหยาบคายต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ใช่ด้วยความโมโหโกรธาต่อผู้น้อย ไม่ใช่ด้วยความเกลียดชังเป็นแรงจูงใจ
การทำงานด้วยแรงจูงใจที่ผิด สร้างความทุกข์ทรมานแก่คนทำงานนั้นเป็นคนแรก ก่อนจะขยายผลเสียไปสู่คนอื่นๆ รอบตัว
งานที่เราทำด้วยความรัก งานนั้นก็จะเป็นงานที่มีความหมาย มีคุณค่าต่อคนอื่นๆ และคุณค่าที่ดีเหล่านั้นจะวกกลับมาหาคนที่ทำงานด้วยความรักอย่างแน่นอน แม้ในขณะนี้เราจะประสบกับสถานการณ์ที่ไม่ยุติธรรมในการทำงาน ไม่ได้ผลงานเป็นที่น่าพอใจในทันที หรืออาจไม่ใช่งานที่คนอื่นๆ ยอมรับชื่นชมตลอดเวลา
แต่เราจำเป็นต้องรักษาแรงจูงใจที่ดีนั้นไว้ให้ได้ เพราะมันเป็นทางเดียวที่งานนั้นจะเป็นงานที่มีความหมายต่อชีวิตของเราและคนอื่นๆ ด้วย
เป็นงานที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อคนที่เรารัก ต่อครอบครัวของเรา ต่อเพื่อนฝูง ต่อคนอื่นๆ ในชุมชน ต่อสังคม ต่อโลกของเรา และเป็นงานที่เราเองก็อยากได้รับจากคนอื่นๆ เช่นเดียวกัน.
Comentarios