
หลุยส์ บาร์รากัน มอร์ฟิน (Luis Barragán Morfin) สถาปนิกคนสำคัญของเม็กซิโกในช่วงศตวรรษที่ 20
เขาเกิดที่เมือง กวาดาลาฮารา ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1902 - (เสียชีวิต 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1988) หลุยส์จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่ Escuela Libre de Ingenieros ในกวาดาลาฮารา เมื่อปี ค.ศ. 1923 และฝึกหัดด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ด้วยตัวเอง
หลังจากศึกษาจบ เขาเดินทางไปหลายประเทศ ทั้งในสเปน ฝรั่งเศส (ที่ๆ เขาเข้าฟังการบรรยายของเลอ กอร์บูซีเย) และโมร็อกโกซึ่งกระตุ้นความสนใจในสถาปัตยกรรมพื้นเมืองของแอฟริกาเหนือและเมดิเตอร์เรเนียน

ขณะที่อยู่ในฝรั่งเศส หลุยส์ได้รู้จักงานเขียนของ แฟร์ดินองด์ บัค (Ferdinand Bac) นักเขียนชาวเยอรมัน-ฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นดีไซเนอร์และศิลปินที่มีอิทธิพลต่องานของบาร์รากันในอนาคต
ในช่วงปลายทศวรรษ 1920 เขาเข้าร่วมกับขบวนการที่เรียกว่า Escuela Tapatía หรือ Guadalajara School ซึ่งใช้ทฤษฎีสถาปัตยกรรมที่ยึดมั่นในประเพณีระดับภูมิภาคอย่างจริงจัง

การทำงานด้านสถาปัตยกรรมของเขาอยู่ที่เมืองกวาดาลาฮารา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1927 ถึง ค.ศ.1936 ก่อนที่เขาจะย้ายที่อยู่ไปยังเมืองเม็กซิโกซิตี้จนกระทั่งเสียชีวิต
งานของ หลุยส์ บาร์รากัน ถูกขนานนามว่ามีรูปแบบของ มินิมัลลิสต์ (Minimalist) แต่ก็ยังมีสีสันและมีพื้นผิวที่ดูหรูหราโอ่อ่า เขามักใช้ระนาบที่เปลีอยเปล่า ผนังปูนปั้น อิฐโคลนแห้ง (วัสดุก่อสร้างสมัยโบราณที่มักทำด้วยทรายดินเหนียวและฟางหรือหญ้า) ไม้ หรือแม้แต่น้ำ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบในงานของ หลุยส์ บาร์รากัน ที่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ผลงานการออกแบบที่โดดเด่นของเขา สามารถพบได้ในงานออกแบบภายในที่พักอาศัยและการออกแบบน้ำพุที่มีรูปแบบเป็นกำแพงสีสัน ที่มักใช้องค์ประกอบและดัดแปลงรูปแบบมาจากอาคารสไตล์เม็กซิกัน
หลุยส์ บาร์รากัน เรียกตนเองว่า "ภูมิสถาปนิก" เขาเขียนในหนังสือ Contemporary Architects (Muriel Emanuel (ed.) จัดพิมพ์โดย St. Martins Press, 1980) ว่า
“ผมเชื่อว่าสถาปนิกควรออกแบบสวนให้สามารถใช้งานได้ดี เท่าๆ กับที่พวกเขาออกแบบอาคารบ้านเรือน เพื่อยกระดับประสาทสัมพัสด้านสุนทรียะและรสนิยมของผู้อยู่อาศัย และควรให้งานออกแบบมุ่งเน้นไปที่คุณค่าทางจิตวิญญาณและศิลปะ ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผมแล้ว งานสถาปัตยกรรมใดๆ ก็ตาม ที่ไม่แสดงออกถึงสันติสุข ถือเป็นความผิดพลาด“
ชายผู้เปี่ยมศัรทธาที่ผลงานของเขาได้รับการกล่าวถึงว่า "ลึกลับซับซ้อน" แต่ "เงียบสงบราบเรียบ" ซึ่งการออกแบบโบสถ์ Capuchinas Sacramentarias คือประจักษ์พยานของทั้ง 2 คุณสมบัติข้างต้นได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ หลุยส์ ยังเป็นคนที่มีความสนใจในม้าเป็นอย่างมาก เขาจึงออกแบบคอกม้า น้ำพุ และรางน้ำอีกหลายแห่ง
หลุยส์ บาร์รากัน มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งไม่เฉพาะกับสถาปนิกชาวเม็กซิกันในช่วง 3 - 4 ชั่วอายุคนที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลอีกมากมายทั่วโลก และในการรับรางวัล Pritzker Architecture Prize เขากล่าวว่า
"เป็นไปไม่ได้ ที่เราจะเข้าใจศิลปะและความรุ่งโรจน์ทางประวัติศาสตร์โดยไม่ยอมรับความเชื่อทางจิตวิญญาณและเรื่องเล่าในตำนานที่พาเราไปสู่การปรากฏของศิลปะอย่างมีเหตุผล เราคงไม่มีทางได้รู้จักกับ ปิรามิดของชาวอียิปต์ หรือของชาวเม็กซิกันโบราณ ไหนจะวิหารของชาวกรีกและวิหารแบบโกธิกอีกล่ะ สิ่งเหล่านี้จะปรากฎให้เราเห็นได้อย่างไรกัน”
หลุยส์ บาร์รากัน ใช้คำว่า "น่าตกใจ" ที่งานเขียนเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมปฎิเสธคำว่า "ความงาม แรงบันดาลใจ เวทมนตร์คาถา มนต์เสน่ห์ ตลอดจนแนวคิดเรื่องความสงบ สันติสุข ความเงียบ ความหมายที่ลึกซึ้งและความอัศจรรย์ใจ"

หลุยส์ บาร์รากัน ขอโทษที่เขาไม่ได้ทำตามแนวคิดการปฎิเสธความเชื่อทางจิตวิญญานในการสร้างสรรค์ผลงานสถาปัตยกรรม เขากล่าวว่า "สิ่งเหล่านี้ไม่เคยหยุดที่จะเป็นเสมือนแสงนำทางสำหรับผม"
เขากล่าวว่า “สถาปนิกจำเป็นต้องรู้ว่า มนุษยเรามองเห็นอย่างไร มันคือการมองเห็นที่ไม่ถูกครอบงำด้วยเหตุและผลเท่านั้น”
Comentarios